หลายคนคงเคยได้ยินหรือเห็นป้ายพื้นแดงตัวหนังสือสีขาวเขียนว่า “OYO” หรือ “OYO room” กันบ้าง ทั้งที่เป็นเจ้าของโรงแรมเอง หรือนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ค้นหาที่พักบน OTA และพบว่ามีห้องพัก หรือโรงแรมที่เคยไปพัก แต่ปัจจุบันมี OYO นำหน้า หรือเจ้าของโรงแรมบางรายที่เคยใช้บริการของ OYO เรามาทำความรู้จักกันว่า OYO เขาเป็นใคร และสถานการ์ณล่าสุดของกิจการเป็นอย่างไร
ความจริงการที่เจ้าของโรงแรมที่พักจะตกลงใจนำแบรนด์อะไรมาใช้ หรือจะให้ใครเอาโรงแรมของเราไปบริหาร หรือตกลงใจจะใช้แพลตฟอร์มการขายออนไลน์ของใคร สิ่งที่จำเป็นก่อนที่จะตัดสินใจคือ “การค้นคว้าหาข้อมูล และเปรียบเทียบการให้บริการ” ก่อน มิฉะนั้นจะกลายเป็นการตัดสินใจเลือกอะไรด้วยความรู้สึก หรือที่ในยุคปัจจุบันมักเป็นกันคือ “เขาว่าดี” แต่ไม่รู้ว่า “เขา” ที่ว่านั้นคือใคร……….เรื่องนี้เราย้ำเตือนกันมาตลอดเวลาที่ได้มีโอกาสแนะนำหรือแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ
มาเข้าเรื่องกันต่อ….
สรุปแบบ Fact Finding หรือสรุปข้อเท็จจริงแบบสั้น ๆ เกี่ยวกับ OYO ดังนี้
- ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2013/2556 หรือเมื่อ 7 ปีก่อนโดยนักธุรกิจชาวอินเดียชื่อ Ritesh Agarwal
- ปัจจุบันมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลกจากจำนวนห้องพักที่อยู่ในแพลตฟอร์มทั้งหมด
- รูปแบบคือเป็นแพลตฟอร์มการขายห้องพักออนไลน์ โดยเน้นกลุ่มโรงแรมราคาประหยัด (Independent Budget Hotel)เริ่มจากในประเทศอินเดียก่อนที่มีที่พักในระดับราคาประหยัดจำนวนมาก บางแห่งได้มาตรฐาน บางแห่งไม่ได้มาตรฐานทำให้นักเดินทางในประเทศไม่ว่าจะไปทำธุระต่างเมือง หรือไปพักผ่อน ประสบปัญหาในการหาที่พักที่สามารถเชื่อถือได้
- เมื่อที่พักราคาประหยัดสนใจลงทะเบียนเข้าร่วม OYO จะนำมา rebrand เล็ก ๆ ผ่านรูปลักษณ์ที่มองเห็นและจับต้องได้ เช่น มีตราสัญญลักษณ์ของ OYO การเพิ่มข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่มีตราสัญญลักษณ์ของ OYO ในส่วนต่าง ๆ ของโรงแรม หลังจากนั้นจะโปรโมตผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงตลาดของกลุ่มโรงแรมที่พักราคาประหยัดเหล่านี้ ให้ลูกค้าสามารถค้นหาพบในโลกออนไลน์มากขึ้น เท่ากับว่า “เพิ่มช่องทางการเข้าถึง” เท่ากับ “เพิ่มโอกาสทางการขาย” โดย OYO จะคิดค่าคอมมิชชั่นในการดำเนินการเหล่านี้
- OYO นับเป็นบริษัท start-up ในอินเดียที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดดตามธรรมชาติของบริษัท start-up ทั้งหลาย เพราะสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งฝั่งเจ้าของโรงแรม และลูกค้า โดยเฉพาะในประเทศอินเดียที่มีโรงแรมที่พักในกลุ่มราคาประหยัดมาก ๆ ได้อย่างตรง pain point เช่นคนเป็นเจ้าของตึก 3 ชั้นทำที่พักแบบค้างคืนง่าย ๆ ราคาต่ำมากมาก แต่เมื่อมาใช้ OYO ก็ทำให้เขาหาลูกค้าได้เพิ่มขึ้น มีลูกค้าค้นหาที่พักเขาเจอและมาใช้บริการมากขึ้น
- จากประเทศอินเดียก็ขยายไปในประเทศต่างๆ ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งบ้านเรา ซึ่งรวมถึงประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
- มีระบบสมาชิกในระดับต่าง ๆ มีค่าบริการรายปี เพื่อได้ส่วนลดเมื่อเข้าพัก เรียกว่า Wizard Member



credit / image source : oyorooms.com
สถานการ์ณทางการเงินและการตลาด
ตามลักษณะบริษัท start-up ทั่วไปเมื่อมีการเติบโตรวดเร็ว ย่อมเจอกับสิ่งท้าทายไม่ว่าจะเรื่องทีมงาน กำลังคน และเงินทุน
- OYO รายงานผลประกอบการในปี 2019/2562 มีรายได้ 951 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย 64% ของรายได้มาจากภายในประเทศอินเดีย และอีก 32% มาจากจีน เรียกได้ว่าหากเปรียบเทียบผลประกอบการระหว่างปี 2018 และ 2019 บริษัทเติบโตมากกว่า 4.5 เท่าในภาพรวมของการเติบโตทั้งโลก
- อย่างไรก็ดีผลประกอบการในช่วงเดือนเมษายน 2018/2561 – มีนาคม 2019/2562 แสดงรายการขาดทุน (Net Losses) เพิ่มขึ้นถึง 53 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสรุปผลขาดทุนสูงถึง 335 ล้านเหรียญสหรัฐ
- การขาดทุนอย่างมหาศาลที่ผ่านมา Agarwal อธิบายว่าเกิดจากการเร่งขยายตลาดไปยังประเทศจีนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2018/2561 และการขาดทุนในส่วนของตลาดอินเดีย
- Agarwal อธิบายว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมาที่มาจากภายในอินเดียเองนั้น 90% มาจากลูกค้าเก่า (Repeat customers) และการบอกต่อ (word-of-mouth) และที่สำคัญคือตลาดการจัดงานแต่งงานในอินเดียที่โรงแรมในกลุ่ม OYO จัดงานมากถึง 50,000 งานแต่งเลยทีเดียวในปี 2019
- อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในภาพรวมทั่วโลกอยู่ที่ 60% ในปี 2019 ถึงแม้ ARR จะไม่มีการปรับเพิ่ม แต่ในแง่ RevPAR มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น (ในรายงานบทสัมภาษณ์ไม่ได้แจ้งตัวเลข )
- จากข่าวเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา OYO ประกาศลดจำนวนพนักงานอย่างมโหฬาร ปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมด 25,000 คนที่เป็น Direct Employee และกว่า 200,000 คนในลักษณะ Indirect Employee คือพนักงานที่ทำงานในโรงแรมที่อยู่ภายใต้ OYO โดยการลดพนักงานของ OYO เองในประเทศอินเดียจะถูกปรับลดจำนวนลง 15-20% หรือประมาณ 2,400 คน และในประเทศจีน และสหรัฐอเมริกาก็ถูกปรับลดลงเช่นกัน
การระดมทุนและการถือหุ้น
- เดือนสิงหาคม 2018 บริษัทได้ระดมทุนในระดับ Series E ที่ประเมินมูลค่าบริษัทสูงถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปีต่อมาก็มีข่าวออกมาว่ามูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 10,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียว ซึ่งการะดมส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Softbank Vision Fund และส่วนของเจ้าของคือ Ritesh Agarwal
- จากสถานการณ์โคโรนาไวรัส หรือ Covid-19 ข่าวแจ้งว่ามูลค่าบริษัทน่าจะลดลงประมาณ 20-25% คือเหลืออยู่ที่ 6,000 ล้านเหรียญ
=================
พอจะเห็นภาพคร่าว ๆ ของ OYO ที่กำลังขยายตัวอย่างหนักในบ้านเราแล้วว่าธุรกิจของเขาคืออะไร เหมาะกับโรงแรมกลุ่มไหน ถึงแม้ปัจจุบันสถานการณ์ในประเทศอินเดียเริ่มมีข้อร้องเรียนเรื่องมาตรฐานและคุณภาพของโรงแรมที่อยู่ภายใต้เครื่องหมาย OYO และการเรียกเก็บค่าบริการที่สูงถึง 20% ของรายได้ในบางพื้นที่ซึ่ง OYO ก็พยายามจะแก้ไขปัญหาด้วยการออกเครื่องมือที่เรียกว่า ” OYO Club Red” ที่เป็น Reward Program สำหรับโรงแรมสมาชิก เน้นแก้ไขปัญหาในอินเดียก่อน และมีแผนที่จะนำมาปรับใช้ในประเทศอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
===============
คำแนะนำ
จะเลือกใช้เชนอะไร ศึกษาเพิ่มเติมว่าเขาเชี่ยวชาญลูกค้ากลุ่มไหน ระดับกำลังซื้อแบบไหนที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในพื้นที่ที่เขาชำนาญที่สุดเป็นอย่างไร และเมื่อขยายออกมานอกพื้นที่แล้วเป็นอย่างไร
ส่วนใครที่ใช้บริการอยู่แล้วก็คงต้องมาประเมินการใช้งานที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร การคิดค่าบริการเปรียบเทียบกับจำนวน room night production ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร การที่มีหมอนสีแดง ป้ายสีแดงทั่วบริเวณโรงแรม สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับโรงแรมของคุณหรือไม่อย่างไร
ที่มา: