


จัดพอร์ต การตลาดโรงแรม พร้อมรับเปิดประเทศ
เรื่อง จัดพอร์ต โรงแรมมีการพูดถึงและแนะนำผ่านบทความมาเป็นระยะ ๆ เพื่อกระตุ้นในเจ้าของโรงแรมที่พักขนาดเล็กถึงขนาดกลางได้หันกลับมาวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ในระบบอย่างมีแนวทางที่จะนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ดูแต่ตัวเลข Occ กับ ARR / ADR ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
ช่วงที่ตลาดท่องเที่ยวเปิดเจ้าของธุรกิจอาจไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากนักเพราะมีลูกค้าเข้าพักต่อเนื่องตามฤดูกาลท่องเที่ยว แต่เมื่อประเทศปิด และประกอบกับในช่วงตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 เป็นต้นมาต้นทุนทุกอย่างเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่กำลังจะเปิดประเทศให้กลับมาใกล้เคียงกับสถานการณ์ก่อนโควิด-19 การกลับมาเปิดโรงแรมแบบเต็มที่ โดยที่ไม่มีการคิด วิเคราะห์ ปรับกลยุทธ์ตั้งแต่การเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การสื่อสารการตลาด การสร้างฐานลูกค้าที่ดี ย่อมมีแต่จะสร้างค่าใช้จ่ายที่สูงและไม่มีการจัดสรรอย่างเหมาะสม
ยิ่งโรงแรมที่พักที่เคยพึ่งพาตลาดต่างประเทศผ่าน Tour Operator/Wholesalers ในต่างประเทศ การที่จะเริ่มทำธุรกิจกันใหม่ภายใต้ต้นทุนที่สูงขึ้นทั่วโลก (ย้ำ ทั่วโลก ไม่ใช่แต่ประเทศไทย) การที่ทีมการตลาดและการขายจะใช้วิธีขับเคลื่อนไปในแนวแบบเดิม ๆ คิดว่าไม่เหมาะแน่นอน
ดังนั้น การเปิดโรงแรมภายใต้สภาวะการณ์ใหม่ จึงจำเป็นต้องตั้งหลักให้ดี
.
.
.
ขอให้ไล่เรียงลำดับความคิดในการออกแบบการทำงานด้านการตลาดการขาย ซึ่งการ จัดพอร์ต ที่ดีจะช่วยให้คุณจัดสรรงบประมาณได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
.
- เป้าหมายในครึ่งปีหลัง ตั้งแต่กรกฎาคม – ธันวาคม 2565 คืออะไร
- เป้าหมายในปีต่อไปแบบเต็มปี ตั้งแต่มกราคม – ธันวาคม 2565 คืออะไร
สาเหตุที่ให้ตั้งหลักแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลาเพราะเมื่อวางแผนแล้ว บางกลยุทธ์อาจต้องเป็นการทำงานในระยะกลาง ถึงระยะยาวโดยการปรับฐานและวางทีมให้พร้อมรับในช่วงครึ่งปีหลัง ปี 2565 นี้เป็นสำคัญ หากต้องมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องการให้บริการ ขั้นตอนการให้บริการ ซึ่งจะกระทบถึงภาพลักษณ์ของโรงแรมในอนาคต
เมื่อมีตัวเลขเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว สิ่งที่ควรดำเนินการต่อไปคือ
- นำตัวเลขเก่ามาวิเคราะห์ว่าเรามีกลุ่มตลาดเป็นแบบไหนที่ผ่านมา และแต่ละตลาดมีต้นทุนในการบริหารจัดการเป็นเท่าไหร่ ให้ผลตอบแทนเป็นอย่างไร
- ถ้าเป้าหมายของททท.ในปี 2022-2023 คือทำตัวเลขให้ได้ 50% ของตัวเลขก่อนโควิด-19 ส่วนแบ่งทางการตลาดที่จะตกมาที่จังหวัดของคุณเป็นเท่าไหร่
- ข้อจำกัดเรื่องการเดินทางเป็นอย่างไร เช่น จำนวนเที่ยวบินที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพิ่มขึ้น/ลดลง อย่างไร
- เทรนด์นักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
จากนั้นนำตัวเลขทั้งหมดมาจัดลงตาราง 1 ตารางให้เห็นภาพรวม แล้วให้ทำขั้นตอนต่อไปนี้
- งบประมาณที่จะจัดสรรลงในแต่ละช่วงเวลามีจำนวนเท่าไหร่
- จากงบก้อนรวม กระจายไปในกลุ่มลูกค้าตลาดไหนบ้าง – ข้อนี้อย่าลืมนำตัวเลขในอดีตมาเทียบเคียง
- จากงบก้อนรวม จะกระจายไปยังกิจกรรมทางการตลาดประเภทอย่างไร
เมื่อเห็นภาพรวม เราก็จะประเมินได้ว่า ถ้าโรงแรมยังจัดพอร์ตแบบเดิม ๆ ภายใต้งบประมาณแบบเดิม ๆ อาจจะไม่เกิดประโยชน์มากนัก
.
.
แต่ถ้านั่งดูตัวเลข และเทรนด์นักท่องเที่ยวในอนาคตภายใต้ปัจจัยการเดินทางเข้าประเทศไทย
คุณก็จะเห็นว่า คุณควรจะปรับการจัดสรรงบประมาณไปยังพอร์ตการตลาดส่วนไหน จึงจะสามารถคาดหวังผลลัพธ์ที่จะสัมฤทธิ์ผลได้ในสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่า การจัดสรรงบประมาณไปยังพอร์ตเดิม ๆ ที่เคย ๆ ทำมา
.
.
ถึงแม้ททท. ยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมกับ Trade Partners ในต่างประเทศอย่างเข้มข้น แต่กลุ่มตลาดแบ่งตามประเทศนั้นมีการปรับเปลี่ยนมาในโซนเอเซียมากขึ้นเนื่องจากมีความผ่อนคลายในการเดินทางระหว่างประเทศมากกว่ากัน ดังนั้น หากโรงแรมใดยังคงใช้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเดิม ๆ ที่เคยเป็นมาซึ่งจะมีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวในยุโรปมากกว่าเอเซีย อันนี้ก็ควรกลับมาทบทวน
.
ท้ายสุด ถ้าการจัดพอร์ตโฟลิโอ หมายถึง การบริหารการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง
แปลว่า ถ้าโรงแรมสามารถจัดสรรงบค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการขาย ไปลงในตลาดที่มีความเสี่ยงต่ำ และคาดว่าจะได้ผลตอบแทนกลับมาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว … กรณีนี้เท่ากับว่า คุณบริหารความเสี่ยงของพอร์ตโรงแรมได้แล้ว
.
.
.
ฝึก ฝึก ฝึก ค่ะ
.
.
///
บทความเก่าเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมเปิดประเทศและการจัดพอร์ต สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thethinkwise.com/2020/04/08/recovery-plan-for-hotel/
ข่าวททท.ตั้งเป้าไตรมาสที่ 4 ปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวเดือนละ 1.0 ล้านคน อ่านข่าวจากประชาชาติธุรกิจได้ที่ https://www.prachachat.net/tourism/news-922701