


จาก คนไม่รู้จัก จะเปลี่ยนเป็น แฟนคลับ โรงแรมควรปรับแคมเปญออนไลน์อย่างไรให้ตอบโจทย์
และมาสำรวจว่าคุณใช้งบประมาณที่ผ่านมาแบบสิ้นเปลืองหรือมีประสิทธิภาพ
.
เริ่มจากทำความเข้าใจกับสองคำนี้กันก่อนว่า หมายถึงอะไร ?
.
เวลาโรงแรมที่พักทำการตลาดออนไลน์ ทีมการตลาดของคุณจัดการกับ Cold Audience และ Warm Audience อย่างไร
.
Cold Audience หมายถึงคนที่ไม่เคยเห็นโรงแรมคุณบนโลกออนไลน์ ไม่เคยเข้ามาแสดงออกกับคอนเทนต์ที่โรงแรมคุณผลิตออกไป เรียกว่า ยังไม่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับโรงแรมคุณบนพื้นที่ในโลกออนไลน์ทุกช่องทาง
.
Warm Audience หมายถึงคนที่เคยเข้ามาเชื่อมโยงกับคอนเทนต์ของโรงแรมคุณ หรือ เคยเข้าไปดูเว็บไซต์โรงแรม หรือ เคยดูวิดีโอคลิปมากกว่า 3 วินาที
.
ประเด็นคือ คุณทราบหรือไม่ว่าการทำการตลาดออนไลน์ของคุณ ไม่ว่าคุณจะทำเอง จ้างเอเจนซี่ทำ จ้างฟรีแลนซ์ทำ หรือที่เห็นมากในปัจจุบัน คือ จ้างกราฟิกดีไซน์เนอร์ หรือาร์ตเวิร์คให้ทำคอนเทนต์ และเข้าใจว่าเขากำลังทำการตลาดออนไลน์ให้
.
วันนี้ #แนะนำ ให้ลองพูดคุยกับทีมงานของคุณถึงแผนงานของเขาในการที่จะเปลี่ยน Cold Audience เป็น Warm Audience ว่าเป็นอย่างไร ภายใต้ระยะเวลาเท่าไหร่ และต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่
.
และที่สำคัญ
ทีมการตลาดของคุณมีแผนจะทำอะไรกับ Warm Audience เหล่านั้นบ้าง
.
ถ้าเขาตอบว่า “ก็ทำ Retargeting ต่อไงครับ” หรือ “ก็ตามหลอนต่อไปสิคะ” ให้ถามต่อไปว่า
- จะตามต่อด้วยคอนเทนต์อะไร หรือ จะตามด้วยแคมเปญอะไรต่อ
- งบประมาณที่วางแผนไว้ และที่ใช้ผ่านมาในการเลือก Audience ได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร
.
.
ถ้าโลกออนไลน์เคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว และสิ่งที่จะดึงดูดสายตาผู้ใช้งานภายในไม่กี่วินาทีตลอดเวลา ทีมการตลาดออนไลน์ หรือ ทีมดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งตัวจริง เขาจะมีแผนกิจกรรมของเขาพร้อมทั้งตัวชี้วัดมานำเสนอให้คุณได้ดูเป็นระยะ ๆ



คำถามแรก – จาก Cold Audience ที่นำไปใช้กับการสร้างแคมเปญสำหรับกลุ่ม Open Targeting คือเปิดกว้างเพื่อให้เข้าถึงทุกคน …ทีมการตลาดคุณใช้งานเพื่อสร้าง Warm Audience อย่างไร และสามารถแบ่งเป็น Detailed targeting ที่เราสามารถกำหนด Interest, Behavior, Lifestyle, etc ได้ และสร้าง Lookalike Audience ขึ้นมาได้อย่างไร
ข้อต่อมา – สัดส่วนระหว่าง Open Targeting, Detailed Targeting และ Lookalike Audience ของโรงแรมคุณเป็นอย่างไร หากแบ่งเป็นสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์
คำถามที่ 3 – ทีมการตลาดออนไลน์ของคุณได้ผลตอบรับจากกลุ่มไหนมากที่สุดเวลาทำแคมเปญ
.
.
สำหรับโรงแรมรีสอร์ทที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลายาวนานมีข้อมูลลูกค้าอยู่ในมือมากพอสมควรแล้ว
- คุณยังคงใช้ Open Targeting ทำการตลาดออนไลน์ทุกครั้งในการทำแคมเปญหรือเปล่า
- การเลือกใช้ Open Targeting คุณใช้ Location มาช่วยกำหนดพื้นที่ในการที่แคมเปญคุณจะไปแสดงให้เห็นหรือเปล่า หากโรงแรมคุณมีลูกค้าส่วนหนึ่งเป็นหน่วยงานราชการในพื้นที่ หรือในจังหวัดใกล้เคียงที่ต้องเดินทางมาทำธุระในพื้นที่ที่โรงแรมคุณตั้งอยู่
- ถ้าคุณเลือกใช้ Open targeting แล้วมาเพิ่มการกำหนด Detailed Target เพิ่มเติม — จำนวนกลุ่มลูกค้าที่คาดว่าจะเข้าถึงเปลี่ยนไปอย่างไร และส่งผลกระทบต่อแคมเปญอย่างไร
.
สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณใช้งบประมาณมากเกินความจำเป็นหรือเปล่า ? หรือได้ผลคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
.
.
.
เวลามีใครบอกให้โรงแรมทำ ‘Lookalike Audience’ อยากเชิญชวนให้กลับมามองผลลัพธ์ที่ผ่านมาในแต่ละแคมเปญที่คุณออกไปว่า การตั้งกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ให้ผลที่แตกต่างกันอย่างไร
.
.
โรงแรมที่เปิดมานานควรจะมี Warm Audience ที่มีคุณภาพมากขึ้นหรือเปล่า ?
.
.
ลองชวนทีมการตลาด หรือเอเจนซี่ของคุณมานั่งคุยกันว่าจะเปลี่ยน คนไม่รู้จัก เป็น แฟนคลับ อย่างไร
.
ไม่มีโจทย์ตายตัวว่าทุกโรงแรมต้องมีผลลัพธ์เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่า สถานะโรงแรมของคุณอยู่ตรงไหน จับกลุ่มตลาดอะไร และกิจกรรมการตลาดและการขายที่ผ่านมาไปจนถึงเรื่องแบรนด์โรงแรมเป็นอย่างไร
.
.
คำถามมากมาย แต่ถ้าคุณตั้งใจทบทวนกิจกรรมการตลาดออนไลน์ที่ผ่านมา คุณจะเห็นว่า บางส่วนของงบประมาณถูกใช้ไปอย่างสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็นเพราะการเลือก Open Targeting, Detailed Targeting และ Lookalike Audience ยังมีเวลาปรับเปลี่ยนและทำความเข้าใจใหม่
.
สิ่งที่ควรพึงระลึกไว้เสมอคือ Meta = Robot การสั่งให้หุ่นยนต์ทำงาน คำสั่งและพารามิเตอร์ต่าง ๆ ควรชัดเจนและไม่ทับซ้อนกัน