fbpx

Hotel Consulting

รู้ให้จริง ทำให้เป็น เรื่องโรงแรม

Hotel Update โรงแรมเตรียมพร้อม

สัปดาห์ที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในส่วนธุรกิจโรงแรมและสถานการณ์การท่องเที่ยว มาสรุปภาพสั้น ๆ กันค่ะว่าเป็นอย่างไร

  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีนสะสมรวม ณ 12 สิงหาคม 2564 เรามียอดจำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 17.23 ล้านคน และได้รับเข็มที่ 2 แล้วสะสม 4.85 ล้านคน เป็นการใช้ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 22.50 ล้านโดส สถานการณ์การฉีดวัคซีนเฉลี่ยต่อวันยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
  • ข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง – ไม่เฉพาะแต่ประเทศไทย แต่ด้วยการกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งของไวรัสสายพันธุ์เดลต้าทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกกลับมาเพิ่มสูงอีกครั้งเห็นได้จากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ต้องกลับมาใช้มาตรการล๊อคดาวน์ บังคับใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างในประเทศที่เคยประกาศให้ออกนอกบ้านได้โดยไม่ต้องใส่หน้ากาก
  • ข้อกำหนดห้ามการเดินทางระหว่างประเทศยังคงใช้อยู่ มีการปรับเปลี่ยนจัดอันดับประเทศในรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงไม่ควร เดินทาง หรือให้เดินทางเฉพาะที่จำเป็น และมีเงื่อนไขในการกักตัว และตรวจเชื้อโควิด-19 ในทุกสัปดาห์ แตกต่างกันไปตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ
  • จำนวนโรงแรมที่ยังเปิดให้บริการ จากรายงาน HSI โดยความร่วมมือระหว่างสมาคมโรงแรมไทยและธนาคารแห่งประเทศไทยที่สรุปสถานการณ์รายเดือนจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจำนวน 304 ตัวอย่างพบกว่ามีโรงแรมที่เปิดให้บริการปกติ 40% และปิดกิจการชั่วคราว 22% เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาโดยในจำนวนกลุ่มตัวอย่างมีโรงแรมที่เป็น ASQ 9% หรือ 28 โรง
  • จากจำนวนโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าจะปิดกิจการมากกว่า 6 เดือน หรือโดยส่วนใหญ่จะปิดกิจการอยู่ระหว่าง 6 เดือน – 1 ปี และรองลงมาคือมากกว่า 1 ปี (สามารถอ่านรายงานเพิ่มเติมได้ที่เพจธนาคารแห่งประเทศไทย)
  • อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 10% ในภาพรวมในทุกภูมิภาค โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราเข้าพักสูงสุดอยู่ที่ 14.7% และภาคกลางอยู่ที่ 12.1% ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในเดือนสิงหาคมอัตราการเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 8% ลดลงต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเทียบกับโรงแรมที่เป็น ASQ จะมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 20-24%
  • อัตราการจ้างงานในส่วนกิจการโรงแรมนั้นมีการกลับมาจ้างงานเฉลี่ย 53% ของช่วงก่อนเกิดโควิด-19 และโรงแรมที่เป็น ASQ มีการจ้างงานอยู่ที่ 59%

จากภาพรวมที่สรุปข้างต้น สถานการณ์ในไตรมาสที่ 4 ที่กำลังจะมาถึงในอีก 2 เดือนข้างหน้าอาจยังมีความไม่แน่นอน ถึงแม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวและจำนวนยอดการจองห้องพักล่วงหน้าจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ๊อกจะทะลุเกิน 300,000 คืนไปแล้ว แต่ในภาพรวมของธุรกิจโรงแรมยังอยู่ในภาวะที่ยากลำบากในการฟื้นตัวในขณะที่เงินทุนหมุนเวียนก็ร่อยหรอลงไปทุกที

ทางเลือกโรงแรมในช่วงไตรมาสที่ 3 และ ที่ 4 โดยเฉพาะโรงแรมที่พักขนาดเล็ก ถึงขนาดกลางนั้นคงต้องปิดกิจการต่อเนื่องไปก่อน เพราะหากเปรียบเทียบสถานการณ์กับโรงแรมที่พักขนาดกลางถึงขนาดใหญ่จากกลุ่มตัวอย่างในรายงานมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายประเด็น

  • การเปิดโรงแรมต้องใช้เงินทุนในการปรับปรุงกิจการทั้งในส่วนตัวโรงแรม การทำการตลาด และเพิ่มมาตรการความสะอาด ปลอดภัย ห่างไกลโควิด
  • โรงแรมที่เปิดให้บริการทั้งที่เป็น ASQ และไม่ใช่ ASQ มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 10-20%
  • การใช้งบประมาณในการจัดจ้างแรงงานและพนักงานที่มีประสบการณ์อยู่ในระดับ 50% ของจำนวนพนักงานเดิมที่มีอยู่เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้
  • ข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง และการกักตัว ทั้งในและต่างประเทศที่ยังคงเข้มข้น
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน ทั้งในส่วนทีมงานให้บริการของโรงแรมเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าและตัวพนักงานเอง และในส่วนของภาพรวมของประเทศไทยที่ยังมีปัญหาในเรื่องการจัดสรรวัคซีน และปริมาณวัคซีน

.

.

.

ดังนั้นสิ่งที่โรงแรมขนาดเล็ก ถึงขนาดกลางควรทำในช่วงไตรมาสที่ 3 และที่ 4 คือ การทำแผนบำรุงรักษาโรงแรมให้ดีที่สุดภายใต้กำลังคนที่มีอยู่

นอกจากนี้ในพื้นที่ไหนที่ประเมินแล้วสามารถทำอาหารขายได้ หรือโรงแรมสามารถทำอาหารแช่แข็งเพื่อส่งต่างพื้นที่ได้ ก็ควรลองประเมินความเป็นไปได้ อย่าไปทำตาม ๆ กัน ขอให้ประเมินก่อน เพราะในบางจังหวัด คนไม่ชอบรับประทานหรือซื้อกับข้าวนอกบ้าน การทำขายก็อาจไม่ใช่ทางเลือก แต่หากมีจิตอาสาก็สามารถทำอาหารจำหน่ายราคาประหยัดให้คนที่ยังคงทำงานในพื้นที่ได้บริโภคอาหารได้ หรือแบ่งบางส่วนให้บุคคลากรด่านหน้า

การทำธุรกิจอื่นเป็นทางเลือกระหว่าง 6 เดือน – 1 ปี ที่ปิดกิจการ มีตั้งแต่การซื้อมาขายไป สินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ โดยสำรวจความต้องการในตลาดแล้วจึงค่อยลงมือทำ พิจารณาเรื่องกรอบเวลา และเงินลงทุน เงินหมุนเวียนให้ดีในการลงทุนแต่ละครั้ง เช่น ถ้านำเข้าของมูลค่า 50,000 บาทเข้ามาขาย ควรขายให้ได้หมดภายในกี่เดือน และถ้ามีกรอบเวลากำหนดแล้ว ควรจะต้องทำการตลาดออนไลน์อย่างไรให้คนทราบว่าคุณมีสินค้าตัวนี้ขาย มีอะไรที่แตกต่างจากคนอื่น ซึ่งเรื่องการทำคอนเทนต์ การประชาสัมพันธ์ และโปรโมชั่นการขายจะเข้ามาเกี่ยวข้อง

.

.

.

ลองนำไปทบทวนดูนะคะ

ขอให้ทุกท่านปลอดภัยจากโควิดค่ะ